วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และการจัดการ

บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และการจัดการ
2.1 ข้อมูลและสารสนเทศ
       1.) ข้อมูล
                    ข้อมูล (data) หมายถึง ข้อเท็จจริง หรือเหตุการต่างๆ ที่เกิดขึ้นมีลักษณะหลายอย่างผสมผสานเข้าด้วยกัน

           2.) สารสนเทศ
                     สารสนเทศ(information) หมายถึง ข้อมูลต่างๆ ที่ผ่านการประมวลผลแล้ว ซึ่งถูกต้อง
แม่นยำและตรงกับความต้องการของผู้ใช้
           3.)ลักษณะของข้อมูลที่ดี

                     ข้อมูลที่ดีเป็นข้อมุลที่มีคุณภาพ มีความสมบูรณ์ในระดับ
ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้ใช้  โดยข้อมูลที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
                        * มีความถูกต้องและแม่นยำ  เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าหากข้อมูลไม่ถูกต้องหรือไม่น่าเชื่อถือ ผู้ใช้ก็ไม่สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้
                        * มีความสมบูรณ์ครบถ้วน  ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์กระชับและชัดเจนก็จะทำให้ข้อมูลนั้นมีคุณภาพ เกิดความน่าเชื่อถือ ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
                        * ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นปัจจุบัน ข้อมูลที่มีความถูกต้อง สด ใหม่ และทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบัน จะทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบคู่แข่งอย่างมาก
                        * ความสอดคล้องของข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ควรวางแผนหรือสรุปเป็นหัวข้อตามความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด
           4.) ชนิดและลักษณะของข้อมูล

                     ข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
                       * ข้อมูลที่เป็นตัวเลข (numeric data) คือ ข้อมูลที่ใช้แทนจำนวนที่สามารถนำไปคำนวณได้ มีหลายรูปแบบคือ

                                  - เลขจำนวนเต็ม คือ ตัวเลขที่ไม่มีจุดทศนิยม
                                  -  เลขทศนิยม คือ ตัวเลขที่มีจุดทศนิยม ซึ่งอาจมีค่าเป็นจำนวนเต็ม หรือจำนวนที่มีเศษเป็นทศนิยมก็ได้
              เลขทศนิยมเขียนได้ 2 รูปแบบ ดังนี้
                    ก) แบบทั่วไป เช่น 7.0 35.73
                    ข) แบบที่ใช้งานทางวิทยาศาสตร์
                       * ข้อมูลที่เป็นตัวอักขระ  (character data) คือ ข้อมูลที่เป็นตัวอักษรและไม่สามารถนำไปคำนวณได้ แต่นำมาเรียงต่อกันให้มีความหมายได้
             5.) ประเภทของข้อมูล
                      เราสามารถแบ่งได้ 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่
                         * ข้อมูลปฐมภูมิ (primary data) คือ ข้อมูลที่ได้จาการรวบรวมหรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งไม่ได้คัดลอกจากบุคคลอื่น ข้อมูลที่ได้จะต้องมีความถูกต้อง ทันสมัย และเป็นปัจจุบัน

                         * ข้อมูลทุติยภูมิ (secondary data) คือ ข้อมูลที่มีผู้รวบรวมหรือเรียบเรียงไว้แล้ว ซึ่่งเป็นข้อมูลสารสนเทศที่สามารถนำมาใช้อ้างอิงได้




2.2 กระบวนการจัดการสารสนเทศ

                     เราสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ
             1.) การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล

                       * การรวบรวมข้อมูล  เป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินงาน ซึ่งใช้เทคโนโลยีช่วยในการจัดเก็บข้อมูล
                       * การตวจสอบข้อมูล  เมื่อมัฃีการรวบรวมข้อมูล ก็จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลเพื่อความถูกต้อง หากเกิดความผิดพลาดควรรีบแก้ไข
              2.) การประมวลผลข้อมูล

                         * การจัดกลุ่มข้อมูล  ข้อมุลควรจัดเก็บควรจัดกลุ่มเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน เพื่อเตรียมไว้สำหรับใช้งานต่อไป
                         * การจัดเรียงข้อมูล  เมื่อจัดกลุ่มเสร็จ ก็ควรจัดเรียงข้อมูลที่มีความสำคัญตามลำดับตัวเลขหรืออักขระเพื่อสะดวกและประหยัดเวลาในการหาข้อมูล
                         * การสรุปผลข้อมูล หลังจากการจัดเรียงลำดับความสำคัญของข้อมูลแล้ว ก็ควรสรุปข้อมูลเหล่านี้ให้กระชับและได้ใจความสำคัญ เพื่อรอนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
             3.) การจัดเก็บและดูแลรักษาข้อมูล

                         ประกอบด้วยขั้นตอน ดังนี้
                          * การเก็บรักษาข้อมูล การนำข้อมูลที่ประมวลผลแล้วมาบันทึกไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลต่างๆ
                          * การทำสำเนาข้อมูล การคัดลอกข้อมูลจากต้นฉบับเพื่อเก็บรักษา หากต้นฉบับเสียหาย ก็สามารถนำข้อมูลสำเนามาใช้ได้ทันที
           4.) การแสดงผลช้อมูล
                          * การสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูล เป็นเรื่องสำคัญและมีบทบาทอย่างมาก เพราะหากได้รับข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็วและทันเวลา ผู้ใช้งานก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้ีนมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มศักยภาพ
                           * การปรับปรุงข้อมูล หลังจากเผยแพร่ข้อมูลแล้วควรมีผลตอบกลับมา เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงแก้ไขให้ทันสมัยตลอดเวลา

2.3 ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์
 
            1.)เลขฐานสอง
                    การสื่อสารกับเครื่คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูล หรือการสั่งงานจะต้องอาศับระบบเลขฐานสอง เนื่องจากคอมพิวเตอร์ทำงานด้วยสัญญาณไฟฟ้าโดยแทนตัวเลขศูนย์(0) และหนึ่ง(1) โดยแต่ละหลักจะเรียกว่า "บิด" (Binary Didit : Bit) และเมื่อนำตัวเลขหลายๆบิดมาต่อกัน (8 บิต (bit) เท่ากับ 1 ไบต์ (bite)) จะใช้สร้างรหัสแทนจำนวน อักขระ สัญลักษณ์ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้
            2.)รหัสแทนข้อมูล
                     เพื่อแลกเปลี่ยนข้อความระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ไปในแนวเดียวกัน จึงมีการสร้างมาตรฐานรหัสแสดงข้อมูลในระบบเลขฐานสองขึ้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

                        * รหัสแอสที (American Standard Code Information ; ASCIL) เป็นรหัสแทนข้อมูลในระบบเลขฐานสองจำนวน 8 บิต หรือเท่ากับ1 ไบต์ แทนอักขระหรือสัญลักษณ์แต่ละตัว ซึ่งหมายความว่าการแทนอักขรธแต่ละตัวจะประกอบด้วยตัวเลขฐานสอง 8 บิตเรียงกัน
                        * รหัสยูนิโค้ด (Unicode) เป็นรหัสแทนข้อมูลในระบบเลขฐานสองจำนวน 16 บิต เนื่องจากตัวอักษรบางประเภทเป็นตัวอักษรแบบรูปภาพ ซึ่งมีตัวอักษรเป็นหมื่นตัว หากใช้รหัสที่เป็นเลขฐานสอง 8 บิต จะแทนรูปแบบตัวอักษรเพียง 256 รูปแบบ ด้วยเหตุนี้จึงได้สร้างรหัสใหม่ขึ้นมาแทน โดยแทนตัวอักขระได้ 65536 ตัว และยังใช้แทนสัญลักษณ์กราฟิกและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้อีกด้วย
           3).การจัดเก็บข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์
ในการจัดเก็บข้อมมูล ต้องกำหนดรนูปแบบของข้อมูล เพื่อให้ผู้ให็ผู้ใช้งานและคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจตรงกัน มีรายละเอียดดังนี้
                      *บิต (bit) คือ ตัวเลขหลักใดหลักหนึ่งในระบบเลขฐานสอง ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูล
                      *ตัวอักขระ (character) คือ ตัวเลข ตัวอักษร หรือเครื่องหมายใดๆ โดยแต่ละตัวจะใช้เลขฐานสองจำนวน 8 บิต หรือ 1 ไบต์ ในการแทนข้อมูล
                      *เขตข้อมูล (file) คือข้อมูลที่เป็นตัวอักษรเรียงต่อกัน เพื่อแทนความหมายใดความหมายหนึ่ง
                      *ระเบียนข้อมูล (recoed) คือ กลุ่มของเขตข้อมูลที่มีความเกี่ยวข้องกัน ตั้งแต่ 1 เขตข้อมูลขึ้นไป
                      *แฟ้มข้อมูล (file) คือ กลุ่มของระเบียนข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน ตั้งแต่หนึ่งระเบียนขึ้นไป
                      * ฐานข้อมูล (database) เป็นที่รวบรวมแฟ้มข้อมูลหลายๆ แฟ้มเข้าด้วยกัน ซึ่งจะต้องมีความสัมพันธ์กันโดยใช้เขตข้อมูลที่เหมือนกันเป็นตัวเชื่อมระหว่างกัน

2.4 จริยธรรมในการใช้ข้อมูล

             1) ความเป็นส่วนตัว
                      ความเป็นส่วนตัว (privary) ก่อนที่จะเผยแผ่ข้อมูลทุกครั้งต้องคำนึงถึงข้อมูลที่มีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งหากข้อมูลเหล่านี้ถูกพวกมิจฉาชีพนำไปใช้ผิดวัตถุประสงคืก็จะสร้างความเดือดร้อนให้เเก่เจ้าของข้อมูลได้
           2)ความถูกต้อง
                    ความถูกต้อง (accuracy) ก่อนที่จะเผยแผ่ข้อมูลใดๆควรตรวจสอบข้อมูลนั้นเสียก่อน เพราะถ้าผู้รับข้อมูลได้รับข้อมูลที่ผิด ก็จะไม่สามารถนำข้อมูลนั้นมาใช้ประโยชน์ได้เลย
           3)ความเป็นเจ้าของ
                     ความเป็นเจ้าของ (property) การละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญา จะทำให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจต่อเจ้าของข้อมูล ผู้ใช้จึงควรระมัดระวังในการนำข้อมูลมาใช้งาน
            4)การเข้าถึงข้อมูล
                       การเข้าถึงข้อมูล (accessibility) การใช้งานคอมพิวเตอร์มักมีการกำหนดสิทธิตามระบบของผู้ใช้งาน ก็เพื่อป้องกันและรักษษความลับของข้อมูล ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นการผิดจริยธรรมเช่นเดียวกับการละเมิดข้อมูลส่วนตัว

คำถาม
1.สารสนเทศหมายความว่าอย่างไร
2.กระบวนการจัดการข้อมูลสารสนเทศมีกี่ประเภทอะไรบ้าง อธิบาย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น